จุดแข็ง (Steregths)
1. กลุ่มเป้าหมายการให้บริการของงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยชัดเจนทำให้สามารถกำหนดยุทธศาสตร์/มาตรการ/แผนงานโครงการ/กิจกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ
2. มีพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 รองรับให้หน่วยงานของงานมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายใช้ในการขับเคลื่อนงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ครอบคลุมทั้งด้านวิชาการอำนวยการและปฏิบัติการ
3. บุคลากรของงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมีความหลากหลายสาขาอาชีพทำให้มีทักษะความรู้และประสบการณ์ในด้านต่างๆ และสามารถใช้ความรู้ที่หลากหลายเกื้อกูลบูรณาการกัน
4. ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทุกศูนย์มีเครื่องจักรกลยานพาหนะอุปกรณ์ด้านสาธารณภัยทำให้เทศบาลนครขอนแก่นมีเครื่องจักรกลยานพาหนะอุปกรณ์ด้านสาธารณภัยอยู่ในทุกศูนย์
จุดอ่อน (Weaknesses)
1. ระบบฐานข้อมูลด้านสาธารณภัยระดับจังหวัดยังขาดความสมบูรณ์และเป็นเอกภาพทำให้การตัดสินใจหรือสั่งการล่าช้า และขาดการเชื่อมโยงฐานข้อมูลเครื่องมือเครื่องจักรของแต่ละหน่วยงานเพื่อให้เป็นคลังข้อมูลสาธารณภัย
2. งานด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขาดผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เฉพาะทางด้านสาธารณภัยทำให้การวิเคราะห์และการประเมินสถานการณ์ขาดความน่าเชื่อถือและขาดผู้เชี่ยวชาญแต่ละประเภทภัยในเชิงลึกที่สามารถให้คำปรึกษาเพื่อแก้ปัญหากับผู้บริหารระดับสูง
3. งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขาดการให้ความรู้และการประชาสัมพันธ์เชิงรุกผ่านสื่อต่างๆ อย่างกว้างขวางทำให้หน่วยงานเอกชนองค์กรเครือข่ายและประชาชนไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลองค์ความรู้และความร่วมมือในการทำงานร่วมกันเพื่อการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
4. งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขาดระบบในการเข้าปฏิบัติงานช่วยเหลือในพื้นที่ที่เกิดกรณีภัยพิบัติฉุกเฉินและสาธารณภัยที่มีขนาดใหญ่และขาดความพร้อมด้านบุคลากรอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้รวมทั้งสถานที่ไม่เอื้อต่อการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
โอกาส (Opportunities)
1. แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2553-2557 (คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนฯ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2552) แผนหลักการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2553-2557 (คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนฯ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2553) และแผนแม่บทด้านสาธารณภัยประเภทต่างๆ ของจังหวัดใช้เป็นกรอบและแนวทางการบริหารจัดการสาธารณภัยได้ทำให้สามารถขับเคลื่อนระบบและขบวนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ทำให้สามารถขับเคลื่อนระบบและขบวนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้บรรลุเป้าหมาย
2. รัฐบาลให้ความสำคัญกับภารกิจด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและผลักดันการจัดการสาธารณภัยไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
3. มีระบบการสื่อสาร/เครือข่ายที่มีความทันสมัยและมีภาคีเครือข่ายที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีที่สามารถสนับสนุนงานด้านสาธารณภัย
ภัยคุกคาม (Threats)
1. ขาดการบูรณาการของหน่วยงานในระดับจังหวัดทำให้แก้ปัญหาแบบแยกส่วนส่งผลต่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการแก้ปัญหาภัยพิบัติ
2. การขยายตัวของชุมชนโดยไม่มีการจัดวางผังเมืองที่ดีและการดำเนินการตามมาตรการควบคุมอาคารโครงสร้าง เช่น ชุมชนแออัด/ไม่มี Zoning/การตั้งที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยที่ไม่มีประสิทธิภาพทำให้เกิดความเสียหายรุนแรงเมื่อเกิดภัยพิบัติ
3. ประชาชนยังขาดความรู้และขาดจิตสำนึกในการป้องกันสาธารณภัยและไม่ตระหนักถึงผลกระทบของภัยที่อาจเกิดขึ้นได้จึงมักจะมีพฤติกรรมที่เสี่ยงและล่อแหลมต่อการเกิดภัยแม้จะมีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง
4. เนื่องจากมีหลายหน่วยงานที่เข้ามาปฏิบัติงานในด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทำให้ขาดเอกภาพในการบริหารจัดการสาธารณภัย
5. หน่วยงานภาคีเครือข่ายบางหน่วยงานมีความพยายามที่จะดำเนินงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเชิงรุกเพื่อแบ่งงานด้านสาธารณภัยไปปฏิบัติ